USER MANUAL [ SETTINGS ]

Technical

Control Risk

Fix Next Orders

Technical

Control Risk

Fix Next Orders

สารบัญ

EA Thailand : Dashboard

หน้า Dashboard (Overview) ของ EA Thailand จะแสดงค่าสถานะเกี่ยวกับการเทรด และด้านการเงินในบัญชีเทรดของคุณเป็นหลัก โดยรายละเอียดแต่ละส่วนมีดังนี้

1. Acc. Balance / Equity : แสดงยอดเงินในบัญชีเทรด / ยอดเงินที่หักลบกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่ได้ปิดออเดอร์

2. Acc. DD% – Account Drawdown Percentage แสดงเปอร์เซ็นต์การลดลง / เพิ่มขึ้นของยอดเงินในบัญชีเทรดเมื่อเทียบกับยอดเงินสูงสุดที่เคยมี

3. Magin Level (%) – อัตราส่วนระหว่าง Equity กับ Margin ที่ใช้ไป คำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ ใช้บอกสถานะบัญชีเทรด

4. Today Lot : แสดง Lot ของออเดอร์ที่ปิดได้ในแต่ละวัน

5. Today Lot – แสดง Lot ของออเดอร์ที่ปิดได้ในแต่ละวัน

6. Weekly Lot : แสดง Lot ของออเดอร์ที่ปิดได้ในแต่ละสัปดาห์

7. Monthly Lot : แสดง Lot ของออเดอร์ที่ปิดได้ในแต่ละเดือน

8. Spread : แสดงค่าส่วนต่างของ ราคาเสนอซื้อ (Bid) และราคาเสนอขาย (Ask) ของสินทรัพย์ที่ทำการเทรด

EA Thailand : Manual Trade

Manual Trade ของ EA Thailand ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถออกคำสั่งซื้อ – ขายออเดอร์ได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกดออเดอร์ซื้อ (Buy) หรือออเดอร์ขาย (Sell) และยังมีส่วนคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า (Pending Orders) ให้ใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Buy Stop / Buy Limit และ Sell Limit / Sell Stop

นอกจากนี้ยังมีส่วนของการแสดงยอดกำไรและขาดทุน รวมไปถึงจำนวนออเดอร์ และขนาดของออเดอร์ (Lot) ที่เปิดอยู่ในขณะนั้นด้วย โดยคุณสามารถกำหนดค่า TP (Take Profit) และค่า SL (Stop Loss) ของออเดอร์ทั้งหมดได้ เพื่อให้เครื่องมือจัดการปิดออเดอร์ซื้อขายเมื่อถึงยอดที่กำหนด

Manual Trade

หมวดคำสั่งซื้อ - ขายแบบ Manual

1. LOT SIZE : กำหนดขนาดออเดอร์ (Lot) ที่ต้องการออกออเดอร์ ซื้อ – ขาย (Buy / Sell) โดยกำหนดได้ต่ำสุดคือ 0.01

2. BUY : ปุ่มคำสั่งออกออเดอร์ซื้อ (Buy)

3. SELL : ปุ่มคำสั่งออกออเดอร์ขาย (Sell)

4. ใส่ระยะ TP : กำหนดจุดที่เทรดเดอร์ต้องการปิดการเทรดเพื่อทำกำไร (Take Profit) เมื่อราคาไปถึงจุดที่กำหนดไว้

5. ใส่ระยะ SL : กำหนดจุดที่เทรดเดอร์ต้องการปิดการเทรดเพื่อลดการขาดทุน (Stop Loss) เมื่อราคาไปถึงจุดที่กำหนดไว้

6. CLEAR TP : ปุ่มคำสั่งสำหรับยกเลิกการใช้ระยะ TP (Take Profit)

7. CLEAR SL : ปุ่มคำสั่งสำหรับยกเลิกการใช้ระยะ SL (Stop Loss)

หมวดคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า ตั้งเบรค / ตั้งรับ (Pending Orders)

1. LOT SIZE : กำหนดขนาดออเดอร์ (Lot) ที่ต้องการจะทำการซื้อ – ขายล่วงหน้า (Pending Orders) โดยกำหนดได้ต่ำที่สุดคือ 0.01

2. BUY STOP : การตั้งคำสั่งซื้อ (Buy) ล่วงหน้า โดยจะเปิดออเดอร์ทันทีเมื่อราคาของสินทรัพย์ขึ้นไปถึงจุดที่เราตั้งไว้ในช่องตัวเลข ซึ่งเปิดตามจำนวน LOT SIZE ที่กำหนด

3. BUY LIMIT : การตั้งคำสั่งซื้อ (Buy) ล่วงหน้า โดยจะเปิดออเดอร์ทันทีเมื่อราคาของสินทรัพย์ลงไปถึงจุดที่เราตั้งไว้ในช่องตัวเลข ซึ่งเปิดตามจำนวน LOT SIZE ที่กำหนด

4. SELL LIMIT : การตั้งคำสั่งขาย (Sell) ล่วงหน้า โดยจะเปิดออเดอร์ทันทีเมื่อราคาของสินทรัพย์ขึ้นไปถึงจุดที่เารตั้งไว้ในช่องตัวเลข ซึ่งเปิดตามจำนวน LOT SIZE ที่กำหนด

5. SELL STOP : การตั้งคำสั่งขาย (Sell) ล่วงหน้า โดยจะเปิดออเดอร์ทันทีเมื่อราคาของสินทรัพย์ลงไปถึงจุดที่เราตั้งไว้ในช่องตัวเลข ซึ่งเปิดตามจำนวน LOT SIZE ที่กำหนด

หมวดแสดงรายการออเดอร์ซื้อ - ขายทั้งหมด

1. Close All : ปุ่มคำสั่งสำหรับปิดออเดอร์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นออเดอร์ Buy / Sell โดยตัวเลขจะแสดงผลลัพธ์เป็นยอดเงินสุทธิ หลังจากหักลบกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ทั้งหมดที่เปิดอยู่

2. Close Buy : ปุ่มคำสั่งสำหรับปิดออเดอร์ Buy ทั้งหมด โดยตัวเลขจะแสดงผลลัพธ์เป็นยอดเงินสุทธิ หลังจากหักลบกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ Buy ทั้งหมดที่เปิดอยู่

3. Close Sell : ปุ่มคำสั่งสำหรับปิดออเดอร์ Sell ทั้งหมด โดยตัวเลขจะแสดงผลลัพธ์เป็นยอดเงินสุทธิ หลังจากหักลบกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ Sell ทั้งหมดที่เปิดอยู่

4. Close + : ปุ่มคำสั่งสำหรับปิดออเดอร์ทั้งหมดที่ทำกำไรเอาไว้ โดยตัวเลขจะแสดงผลลัพธ์เป็นยอดเงินสุทธิ หลังจากหักลบกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ทั้งหมดที่เปิดอยู่

5. Close – : ปุ่มคำสั่งสำหรับปิดออเดอร์ทั้งหมดที่กำลังขาดทุนอยู่ โดยตัวเลขจะแสดงผลลัพธ์เป็นยอดเงินสุทธิ หลังจากหักลบกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ทั้งหมดที่เปิดอยู่

6. Lot / Order (Buy) : แสดงขนาดของออเดอร์ (Lot) และจำนวนของออเดอร์ Buy ทั้งหมดที่เปิดอยู่

7. Lot / Order (Sell) : แสดงขนาดของออเดอร์ (Lot) และจำนวนของออเดอร์ Sell ทั้งหมดที่เปิดอยู่

หมวดของการตั้งค่า Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL)

1. Partial Close – ปุ่ม เปิด – เปิด การทำงานของ Partial Close ที่จะปิดบางส่วนของออเดอร์ เมื่อกำไร (TP) หรือขาดทุน (SL) “วิ่งมาถึงครึ่งหนึ่ง” ของ TP / SL ที่ตั้งไว้

2. TP (หน่วยเงิน) – กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการทำกำไร (Take Profit) และทำการปิดออเดอร์ Buy / Sell ทั้งหมด เมื่อออเดอร์ทั้งหมดทำกำไรถึงจุดที่กำหนดเอาไว้ได้ โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่ม OFF > ON

3. TP (%) – กำหนดเปอร์เซ็นต์ (%) ที่ต้องการทำกำไร (Take Profit) โดยอ้างอิงยอดเงินในบัญชีเทรด (Acc. Balance) และทำการปิดออเดอร์ Buy / Sell ทั้งหมด เมื่อออเดอร์ทั้งหมดทำกำไรถึงจุดที่กำหนดเอาไว้ได้ โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่ม OFF > ON

4. SL (หน่วยเงิน) – กำหนดจำนวนเงินการขาดทุน (Stop Loss) และทำการปิดออเดอร์ Buy / Sell ทั้งหมด เมื่อออเดอร์ทั้งหมดทำยอดขาดทุนถึงจุดที่กำหนดเอาไว้ โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่ม OFF > ON

5. SL (%) – กำหนดเปอร์เซ็นต์ (%) การขาดทุน (Stop Loss) โดยอ้างอิงยอดเงินในบัญชีเทรด (Acc. Balance) และทำการปิดออเดอร์ Buy / Sell ทั้งหมด เมื่อออเดอร์ทั้งหมดถึงจุดขาดทุนที่กำหนดเอาไว้ โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่ม OFF > ON

*** เมื่อทำการตั้งค่า TP / SL ทั้งในรูปแบบของตัวเลขและเปอร์เซ็น (%) เอาไว้ทั้งคู่ และเปิด ON พร้อมกัน หากจำนวนเงินไหนถึงจุดที่กำหนดไว้ก่อน จะทำการปิดออเดอร์ทั้งหมดก่อนทันที

ยกตัวอย่างเช่น บัญชีเทรดของนาย A ทำการตั้งค่า TP ไว้ที่ 10 USD และตั้งค่า TP ไว้ที่ 1% ในขณะที่บัญชีมียอดเงิน (Acc. Balance) ที่ 10,000 USD (ค่า TP 1% = 100 USD) หากออเดอร์ทั้งหมดทำกำไรถึง 10 USD ออเดอร์ทั้งหมดจะถูกทำการปิดทันที เพื่อทำยอดกำไรที่กำหนดเอาไว้ โดยการตั้งค่า TP ไว้ที่ 1% จะไม่มีผลแต่อย่างใด

EA Thailand : Auto Trade

Auto Trade ของ EA Thailand ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุน / เทรดเดอร์ สามารถออกออเดอร์ซื้อ – ขาย (Buy/Sell) ได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอเพื่อออเดอร์เอง

นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์การเทรด ในรูปแบบการแก้ไม้ให้เลือกทั้ง Anti-Martingale / Martingale และ Zone recovery ให้เลือกใช้งาน รวมไปถึงมีการตั้งค่าแก้ไม้ทั้งในส่วนหน่วยของ Timeframe และ Grid ให้เลือกได้ในแบบที่คุณต้องการ รองรับระบบ Trailing Stop ที่จะมาคอยช่วยให้การเทรดของคุณปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งระบบ Target Profit Today ไว้สำหรับการตั้งเป้าทำกำไรในแต่ละวัน

EA Auto Trade
Auto Trade

หมวดคำสั่งหลักของ Auto Trade

1. Sideway Trend / AUTO ALL : คือปุ่มคำสั่งในการเปิดออเดอร์ Buy และ Sell โดยอัตโนมัติ เพื่อรองรับในสภาวะตลาด Sideway

2. Up Trend / AUTO BUY : คือปุ่มคำสั่งในการเปิดออเดอร์ Buy อัตโนมัติเพียงอย่างเดียว เพื่อรองรับในสภาวะตลาด Up Trend

3. Down Trend / AUTO SELL: คือปุ่มคำสั่งในการเปิดออเดอร์ Sell อัตโนมัติเพียงอย่างเดียว เพื่อรองรับในสวาะตลาด Down Trend

*** เมื่อปุ่ม AUTO ALL / AUTO BUY / AUTO SELL ปุ่มใดปุ่มหนึ่งขึ้นเป็นสีเขียว จะถือว่าเริ่มการเทรดอัตโนมัติ (Auto Trade) ทันที โดยขนาดของการออกออเดอร์จะขึ้นอยู่กับจำนวน LOT SIZE ที่กำหนดในส่วนของ Manual Trade

หมวดคำสั่งการแก้ไม้ของ Auto Trade

ฟีเจอร์นี้เชื่อมโยงกับการทำงานของระบบ Auto Trade ใน EA Thailand โดยตรง ดังนั้น หากคุณต้องการใช้งาน Auto Trade แนะนำให้เข้าไปตรวจสอบและตั้งค่าในส่วนนี้ให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน

1. Pending Stop Out : ปุ่มคำสั่ง เปิด-ปิด สำหรับการเปิดออเดอร์แรกแบบ Pending Stop Out โดยจะมี Pending ทั้งใน 2 ฝั่ง (Buy/Sell) เมื่อราคาไปแตะจุดใดก่อน ก็จะเปิดออเดอร์และจะไม่มีการแก้ไม้เพิ่มแต่อย่างใด โดยจะกำหนดระยะ Pending ได้ในช่อง “Pending Moving” โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่มเป็น Pending Stop Out ON

2. Zone Recovery : ปุ่มคำสั่ง เปิด-ปิด สำหรับกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ (Auto Trade) ที่เน้นการบริหารความเสี่ยงที่ใช้การ Hedging ตามระยะกรอบที่เรากำหนดไว้ ด้วยการเพิ่มขนาดล็อต(Lot Size) แบบเป็นขั้น โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่มเป็น Zone Recovery ON

3. Anti-Martingale ตามไม้ : ปุ่มคำสั่ง เปิด – ปิด สำหรับกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ (Auto Trade) ที่เน้นการเพิ่มขนาดการเทรด (Lot Size) เมื่อได้กำไร โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่มเป็น Anti-Martingale ตามไม้ ON

4. Martingale แก้ไม้ : ปุ่มคำสั่ง เปิด – ปิด สำหรับกลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ (Auto Trade) ที่เน้นการเพิ่มขนาดการเทรด (Lot Size) ทุกครั้งที่ขาดทุน โดยหวังว่าการกำไรในครั้งถัดไปจะชดเชยการขาดทุนทั้งหมดและได้กำไรมาทดแทน (เล็กน้อย) โดยคำสั่งนี้จะเปิดใช้งานได้เมื่อกดปุ่มเป็น Martingale แก้ไม้ ON

Pending Stop Out / Anti-Martingale / Martingale และ Zone Recovery จะเปิดใช้งานได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้งานทั้งสองตัวพร้อมกันได้ แต่ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่มเป็น OFF เพื่อไม่ใช้งานกลยุทธ์การเทรดของทั้ง 4 ตัวได้ด้วยเช่นกัน

5. Grid / Timeframe : ปุ่มกดสำหรับเลือกการออกออเดอร์อัตโนมัติ (Auto Trade) ว่าจะอ้างอิงตามหน่วย Grid ในหน้ากราฟ หรือตามหน่วย Timeframe โดยเลือกใช้ได้เพียงแต่ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น

6. ระยะถัวไม้ BUY : การกำหนดจุดระยะการออกไม้ หรือออเดอร์ Buy ตามกลยุทธ์การเทรด (Anti-Martingale / Martingale) ที่เลือกใช้งาน

7. ระยะถัวไม้ SELL : การกำหนดจุดระยะการออกไม้ หรือออเดอร์ Sell ตามกลยุทธ์การเทรด (Anti-Martingale / Martingale) ที่เลือกใช้งาน

8. MULTI LOT BUY : การเพิ่มขนาดของการเทรด (Lot Size) ของออเดอร์ Buy ตามกลยุทธ์การเทรด (Anti-Martingale / Martingale) ที่เลือกใช้งาน

9. MULTI LOT SELL : การเพิ่มขนาดของการเทรด (Lot Size) ของออเดอร์ Sell ตามกลยุทธ์การเทรด (Anti-Martingale / Martingale) ที่เลือกใช้งาน

10. ระยะ TP BUY : กำหนดจุดที่ต้องการปิดการเทรดของออเดอร์ Buy ทั้งหมดที่ Auto Trade เปิดให้เพื่อทำกำไร (Take Profit) เมื่อราคาไปถึงจุดที่กำหนดไว้

11. ระยะ TP SELL : กำหนดจุดที่ต้องการปิดการเทรดของออเดอร์ Sell ทั้งหมดที่ Auto Trade เปิดให้เพื่อทำกำไร (Take Profit) เมื่อราคาไปถึงจุดที่กำหนดไว้

12. ระยะ SL BUY : กำหนดจุดที่ต้องการปิดการเทรดของออเดอร์ Buy ทั้งหมดที่ Auto Trade เปิดไว้ เพื่อป้องกันการขาดทุน (Stop Loss) เมื่อราคาไปถึงจุดที่กำหนดไว้

13. ระยะ SL SELL : กำหนดจุดที่ต้องการปิดการเทรดของออเดอร์ Sell ทั้งหมดที่ Auto Trade เปิดไว้ เพื่อป้องกันการขาดทุน (Stop Loss) เมื่อราคาไปถึงจุดที่กำหนดไว้

*** การใส่ตัวเลขต่าง ๆ ในส่วนนี้จะเชื่อมโยงการทำงาน Auto Trade โดยตรง โดยอ้างอิงตามกลยุทธ์การเทรด (Anti-Martingale / Martingale) ที่เลือกใช้งาน

*** คำเตือน สำหรับช่อง MULTI LOT BUY / MULTI LOT SELL เราไม่แนะนำให้ตั้งค่าต่ำกว่า 1.00 เนื่องจากเมื่อใช้กลยุทธ์การเทรดแบบ Anti-Martingale หรือ Martingale ที่เน้นการเพิ่มขนาดการเทรด (Lot Size) ขนาดออเดอร์ที่ถูกแก้ไขในแต่ละครั้งจะลดลงเรื่อย ๆ จนถึงขั้นต่ำที่ 0.01 Lot และจะไม่มีการแก้ไขออเดอร์เพิ่มเติม ซึ่งทำให้การปิดออเดอร์อัตโนมัติเป็นไปได้ยากขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับบัญชีเทรดจนเกิดภาวะ ‘พอร์ตแตก' ได้

*** Pending Stop Out จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้หากเปิด Auto All / Auto Buy /Auto Sell และจะไม่ทำงานโดยอ้างอิงเลขในส่วนของ “ระยะถัวไม้” และ “Muti-Lot” โดยหน่วยการแก้ไม้อย่าง Grid และ Timeframe ก็ไม่มีผลด้วยเช่นกัน

หมวดการใช้งาน Trailing Stop

1. Trailing Stop : ปุ่มคำสั่ง เปิด – ปิด การเทรดแบบ Trailing Stop

2. TSL เริ่มทำงาน : กำหนดจุดระยะที่คำสั่ง Trailing Stop Loss (TSL) จะเริ่มทำงาน

3. Follow ตาม TSL : กำหนดระยะของ Stop Loss (SL) ให้เลื่อนตามราคาสินทรัพย์ที่ขยับขึ้นในทิศทางที่ทำกำไร เมื่อ Trailing Stop Loss (TSL) ถูกเปิดใช้งาน SL จะถูกปรับขึ้นตาม TSL โดยอัตโนมัติในทุกครั้งตามระยะที่กำหนด

4. SL ห่างจาก TSL : กำหนดระยะห่างระหว่าง Stop Loss (SL) กับราคาปัจจุบันที่ Trailing Stop (TSL) เลื่อนตามไป ยกตัวอย่างเช่น เช่น นาย A ตั้งระยะ SL ห่างจาก TSL 20 จุด ระบบจะทำการเลื่อน SL ให้อยู่ห่างจากราคาปัจจุบัน 20 จุด เสมอ

หมวดการตั้งค่า Target Profit Today

1. Target Profit Today OFF/ON : ปุ่มคำสั่ง เปิด – ปิด การทำงาน Target Profit Today

2. Profit (หน่วยเงิน) : กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการทำกำไร (Take Profit) ในแต่ละวัน

3. Profit (%) : กำหนดเปอร์เซ็นต์ (%) ที่ต้องการทำกำไร (Take Profit) โดยอ้างอิงยอดเงินในบัญชีเทรด (Acc. Balance)

Hedging System

Hedging System คือ กลยุทธ์ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดโดยการเปิดออเดอร์ Buy และ Sell พร้อมกัน เพื่อลดผลขาดทุนจากออเดอร์หนึ่ง และชดเชยด้วยกำไรจากอีกออเดอร์

เมื่อเปิดออเดอร์ Buy ระบบจะเปิด Sell ควบคู่กัน (หรือกลับกัน) เพื่อป้องกันความเสี่ยง ลดโอกาสขาดทุน และเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา

1. Hedging Manual

Hedging Manual คือ คำสั่งการกดเพื่อใช้ Hedging กลยุทธ์ลดความเสี่ยงด้วยตัวเอง โดยสามารถเลือกขนาดของออเดอร์ (Lot Size) ที่จะเปิดในตำแหน่งตรงกันข้าม โดยอ้างอิงขนาดของออ เดอร์ (Lot Size) ทั้งหมดที่เปิดอยู่ ซึ่งมีให้เลือกจะมีตั้งแต่ 1% – 100% ของขนาดออเดอร์ทั้งหมดที่เปิดอยู่

2. Hedging Auto Trade

Hedging Auto Trade คือ ระบบอัตโนมัติที่จะทำให้ Hedging ทำงานเมื่อเข้ากำหนดเงื่อนไขที่ใส่ไว้ โดยเงื่อนไขการใช้งานจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนก็คือ

  1. DD (%) : กำหนดจำนวนเปอร์เซ็นของค่า DD เมื่อถึงจุดที่กำหนด Hedging จะทำงานทันที
  2. Order (ไม้) : กำหนดจำนวนออเดอร์ เมื่อเปิดออเดอร์ถึงจำนวนที่กำหนดไว้ Heging จะทำงานทันที
  3. LOT SIZE (%) : กำหนดเปอร์เซ็นต์ (%) ของขนาดออเดอร์ที่จะเปิด เมื่อระบบ Hedging ทำงาน โดยอ้างอิงจากขนาดออเดอร์ทั้งหมดที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน

*** LOT SIZE ในส่วนของ Hedging Auto จะกำหนดได้สูงสุดเพียงแค่ 100% เท่านั้น

3. Hedging Technical

Hedging Technical คือ การกำหนดรูปแบบการทำงานของออเดอร์ Hedging ว่าจะให้ทำงานอย่างไร โดยการทำงานของ Hedging สามารถกำหนดได้ 2 ส่วนดังนี้

  1. Martingale / Anti-Martingale : ปุ่มคำสั่ง เปิด-ปิด สำหรับกลยุทธ์การแก้ไม้ของออเดอร์ Hedging ว่าจะให้ทำงานแบบใด โดยมี Martingale และ Anti-Martingale ให้เลือกใช้งานได้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
  2. ปุ่ม TP : ปุ่มคำสั่ง เปิด – ปิด สำหรับการกำหนดจุด TP ของออเดอร์ Hedging หากกดปุ่มเป็น TP เป็นสีเขียว = กำหนดให้ออเดอร์ Hedging มีจุดทำกำไร (TP) แยกตังหาก (โดยปกติแล้วหาก Hedging ทำงาน จะไม่มีจุดทำกำไรแยก)

Profit Cancel Loss

Profit cancel loss คือ ระบบจับคู่ปิดออเดอร์ที่กำหนดการปิดออเดอร์เฉพาะจุดในรูปแบบออเดอร์คู่กัน มี 3 รูปแบบ และระบบจับคู่ปิดออเดอร์อีกแบบหนึ่งให้เลือกดังนี้

  1. Last to First : ปิดออเดอร์แรกและออเดอร์ล่าสุด เมื่อคำนวณกำไร-ขาดทุนรวมแล้วถึงค่า Profit Close ที่ตั้งไว้
  2. Last to Second : ปิดออเดอร์ที่สองและออเดอร์ล่าสุด เมื่อคำนวณกำไร-ขาดทุนรวมแล้วถึงค่า Profit Close ที่กำหนด
  3. Last to Last : ปิดออเดอร์ล่าสุดและออเดอร์ก่อนล่าสุด เมื่อคำนวณกำไร-ขาดทุนรวมแล้วถึงค่า Profit Close ที่ตั้งไว้
  4. Recover 1-1 ; จับคู่ปิดออเดอร์แบบสุ่ม เมื่อคำนวณกำไร-ขาดทุนรวมแล้วถึงค่า Profit Close ที่ตั้งไว้

โดยสามารถเปิดใช้งานได้ที่หน้า Dashboard โดยเลือกกดคลิกรูปแบบที่ต้องการจะใช้งาน

การทำงานของ Profit Cancel Loss สามารถตั้งค่าได้ผ่าน Dashboard ตามรายละเอียดดังนี้

  • Orders – กำหนดจำนวนออเดอร์ที่ต้องการ เมื่อออเดอร์ถึงจำนวนที่ตั้งไว้ ระบบ Profit Cancel Loss จะทำงานโดยอัตโนมัติ
  • Profit (หน่วยเงิน) – กำหนดเป้าหมายกำไร (TP) ที่ต้องการ เมื่อคำนวณกำไร-ขาดทุนรวมแล้วถึงค่าที่ตั้งไว้ ระบบจะปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติ

หมวดเปิดใช้งาน Group Order Step / Rebalance

  1. Group Order Step – ปุ่มคำสั่ง เปิด-ปิด การทำงานของ Group Order Step
  2. Rebalance – ปุ่มคำสั่ง เปิด-ปิด การทำงานของ Reblance
Group Order Step

หมวดการเปิดใช้งาน Indicator

ในส่วนนี้จะเป็นการเปิดใช้งาน Indicator มาควบคู่กับการเทรดอัตโนมัติทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการออกออเดอร์แรกด้วย Indicator หรือการแก้ไม้แบบ Indicator โดยสามารถกดเปิดใช้งานได้ตามเครื่องมือที่ต้องการจะใช้งาน

Indicator
นอกจากนี้จะมีการตั้งค่าในส่วนของ Shift
  • Shift : กำหนดแท่ง Timeframe (TF) ที่ต้องรอก่อนการออกออเดอร์
ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ง่าย ๆ ดังนี้
  • 0 : หมายถึงการออกออเดอร์ทันที
  • 1 : รอจบแท่ง TF แรกแล้วออกออเดอร์
  • 2 : รอจบแท่ง TF ที่สองแล้วออกออเดอร์

*** คุณสามารถใส่ตัวเลขอื่น ๆ ในช่อง “shift” ได้ตามที่ต้องการแบบไม่จำกัด เช่น ถ้าใส่เลข 3 ระบบจะรอจนจบแท่ง TF ที่สามแล้วออกออเดอร์ ตัวเลขที่ตั้งจึงเป็นการกำหนดจำนวนแท่ง TF ที่จะต้องรอจบก่อน แล้วค่อยออกออเดอร์

Mode Trade

Mode Trade

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าการทำงานของการออกออเดอร์ / การแก้ไม้ ว่าจะให้อยู่ในรูปแบบใด

  1. Now : ปุ่มคำสั่ง เปิด-ปิด การทำงานการแก้ไม้ โดยจะทำการแก้ไม้แบบทันที
  2. Pending Moving : ปุ่มคำสั่ง เปิด – เปิด การทำงานของการแก้ไม้ของกลยุทธ์ โดยจะไม่ได้ทำการแก้ไม้ทันที แต่เปิด Pending Order ไว้และเมื่อถึงระยะที่กำหนด ถึงจะเปิดออเดอร์แก้ไม้ให้
  3. ช่องตัวเลข Pending Moving : กำหนดระยะของการทำงาน Pending Order ทั้งหมด

Mode Lot

Mode Lot

ในส่วนนี้คือการตั้งค่ารูปแบบ “ขนาดของออเดอร์ (Lot Size)” ที่จะใช้เมื่อระบบทำการแก้ไม้หรือเปิดออเดอร์ถัดไป โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้เพิ่มขนาดออเดอร์แบบไหน

  1. Multi Lot : ปุ่ม เปิด-ปิด การทำงานการแก้ไม้แบบ Muti-Lot ที่เน้นการคูณ (x) ออเดอร์เพิ่มเมื่อมีการแก้ไม้
  2. Plus Lots : ปุ่ม เปิด-ปิด การทำงานการแก้ไม้แบบ Plus Lots ที่เน้นการบวก (+) ออเดอร์เพิ่มเมื่อมีการแก้ไม้
  3. ช่องตัวเลข Plus Lots : กำหนดขนาดของออเดอร์ (Lot Size) ที่จะบวก (+) เพิ่มในการแก้ไม้

Switch TP Order

Switch TP Order

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าระบบ TP (Take Profit) / การทำกำไรของการเทรดว่าจะให้อยู่ในรูปแบบใด

  1. TP Average : ปุ่ม เปิด-ปิด การทำงานของ TP Average ที่แสดงจุดทำกำไรแบบเฉลี่ยของออเดอร์ทั้งหมด
  2. TP Per Order : ปุ่ม เปิด-ปิด การทำงานของ TP Per Order แสดงจุดทำกำไรของแต่ละออเดอร์แยกกัน

Fix Next Order

Fix Next Order

ในส่วนนี้เป็นการตั้งค่าเงื่อนไขว่า “ถ้าจะเปิดออเดอร์ถัดไป ต้องใช้วิธีไหนเป็นตัวตัดสิน” ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบหลัก ๆ ดังนี้

  1. Indicator : ปุ่มเปิด-ปิดการใช้งานระบบแก้ไม้โดยอิงจากสัญญาณของ Indicator หากเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ ระบบจะเปิดออเดอร์ถัดไปก็ต่อเมื่อ Indicator ที่ตั้งไว้ส่งสัญญาณเข้ามา (ต้องมีการเปิดใช้งาน Indicator ควบคู่ด้วย ถึงจะทำงานได้)
  2. Candle : ปุ่มเปิด-ปิดการใช้งานระบบแก้ไม้ตามแท่งเทียน ถ้าเลือกวิธีนี้ระบบจะดูทิศทางของแท่งเทียน (เช่น ขาขึ้นหรือขาลง) และจะเปิดออเดอร์ใหม่ก็ต่อเมื่อแท่งเทียนต่อเนื่องกันตามทิศทางเดียวกัน “ครบจำนวนแท่ง” ที่คุณตั้งไว้

*** ถ้าไม่ได้มีการเปิดงานอะไรเลย จะถือว่าแก้ไม้ / เปิดออเดอร์ถัดไปเมื่อถึงระยะที่กำหนด

Spread Filter

Spread Filter

Spread Filter คือฟีเจอร์ที่ใช้ควบคุมการทำงานของระบบเทรดอัตโนมัติ (Auto Trade) โดยจะสั่งให้ระบบ “หยุดทำงาน” ทันทีเมื่อค่าสเปรด (Spread) สูงเกินค่าที่เราตั้งไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงเกินไป

  1. Spread : ปุ่ม เปิด-ปิด การทำงานฟีเจอร์ Spread Filter
  2. ช่องตัวเลข Spread : กำหนดค่าสเปรด (Spread) ที่คุณยอมรับได้ ถ้าระบบตรวจพบว่าสเปรดเกินค่านี้เมื่อไหร่ Auto Trade จะหยุดทำงานทันที

หมวดเปิดใช้งาน Group Order Step / Rebalance

ในส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าว่า “จะให้ระบบเทรดอัตโนมัติ (Auto Trade) ทำงานวันไหนบ้าง” โดยสามารถเลือกเปิดหรือปิดได้ตามวันในสัปดาห์ เช่น
  • Mon = วันจันทร์
  • Tue = วันอังคาร
  • Wed = วันพุธ
  • Thu = วันพฤหัสบดี
  • Fri = วันศุกร์
  • Sat = วันเสาร์
  • Sun = วันอาทิตย์
ซึ่งระบบจะแสดงผลออกมาให้เห็นเป็นสี เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต ดังนี้
  • สีเขียว = เปิดใช้งาน Auto Trade ในวันนั้น
  • สีเทา = ปิดการทำงานของ Auto Trade ในวันนั้น
Day Trade

หมวดการตั้งค่าเวลาเปิด - ปิด Auto Trade

ในส่วนของการตั้งค่าเวลาเปิด – ปิดระบบ Auto Trade สามารถตั้งได้ 2 ช่วงเวลา โดยการใส่เวลาจะอยู่ในรูปแบบของ 24 ชั่วโมง (ไม่สามารถใช้รูปแบบ AM /PM ได้) ยกตัวอย่างเช่น ตั้งเวลาเปิด 08:00 / เวลาปิด 17:00 เป็นต้น

*** ในการตั้งค่าเวลาจำเป็นต้องมีเครื่องหมาย : ด้วย เช่น 18:30 ไม่สามารถใช้เป็น 18.30 ได้

EA Thailand : Settings

ในส่วนของ Settings ของ EA Thailand จะเน้นการตั้งค่าเชิงลึก ที่ใช้งานควบคู่กับส่วนของ Auto Trade ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การเทรดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกแบบ Anti-Martingale / Martingale หรือ Zone recovery รวมไปถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ที่กำหนดการออกออเดอร์ หรือใช้ Indicator ต่าง ๆ เข้ามาเป็นค่ากำหนดในการออกออเดอร์ของ Auto Trade

นอกจากนี้ในส่วนของ Setting คุณยังสามารถโหลด Preset ของทาง EA Thailand มาใช้งานในการตั้งค่าตัวเลขต่าง ๆ ในช่อง และการตั้งค่า Indicator ให้พร้อมใช้งานได้ทันทีอีกด้วย

หมวดการตั้งค่า Dashboard

หน้า Dashboard ของ EA Thailand จะมีการตั้งค่าแสดงผลด้วยกัน 2 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

  • none : เมื่อย่อหรือหุบหน้าจอ panel ของ EA Thailand หรือมีการเปลี่ยน timeframe ค่าต่าง ๆ ที่ใส่ไว้ในหน้า Dashboard จะคงค่าเดิมเสมอ
  • my preset : เมื่อย่อหรือหุบหน้าจอ panel ของ EA Thailand หรือมีการเปลี่ยน timeframe ค่าต่าง ๆ ที่ตั้งไว้ในหน้า Dashboard จะถูกย้อนกลับไปอิงตาม preset หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ในส่วนของ Settings

ซึ่งการแสดงผล Dashboard ทั้ง 2 รูปแบบ คุณสามารถเข้ามาเปลี่ยนหรือปรับใช้งานตามสไตส์การเทรดของท่านได้ในส่วนของ Setting > My preset

การใช้งาน Preset

สำหรับเทรดเดอร์ท่านใดที่ต้องการใช้งานสูตรการเทรดหรือ Preset จากทาง EA Thailand ต้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน

  • Preset คือ ค่า Settings ต่าง ๆ ในเครื่องมือ EA Thailand ทั้งในส่วน Manual Trade, Auto Trade ไม่ว่าจะเป็น ค่า Lot Size, การเปิด -ปิด Auto All/Buy/Sell, ค่าระยะ TP/SL ฯลฯ รวมไปถึงการตั้งค่าเปิด – ปิดใช้งาน Indicator ด้วย
  • การโหลดใช้ Preset คือการโหลดการค่าต่าง ๆ ในหน้า Settings มาไว้ยังเครื่องมือช่วยเทรด EA Thailand ซึ่งค่าต่าง ๆ เหล่านี้จะกลายเป็นค่าพื้นฐาน (Default) ของเครื่องมือโดยทันที

โดยการใช้งาน Preset จะมีดังต่อไปนี้

  • Save : คือ การเซฟค่าต่าง ๆ ที่ตั้งค่าในหน้า Setting มาไว้ในรูปแบบของไฟล์หรือที่เรียกกันว่า “Preset” เพื่อให้คนอื่นสามารถนำค่าต่าง ๆ เหล่านี้ไปโหลด (Load) ลงในเครื่องมือช่วยเทรด EA Thailand ได้
  • Load : คือ การโหลดค่าต่าง ๆ จากไฟล์ “Preset” มาลงในเครื่องมือช่วยเทรด EA Thailand ให้พร้อมใช้งานได้ทันที
  • Reset : คือ การออกคำสั่งให้ค่าต่าง ๆ ในหน้า Settings กลับไปเป็นค่ามาตราฐานในตอนเปิดใช้งานเครื่องมือช่วยเทรดครั้งแรก

*** การโหลดใช้งาน Preset คุณสามารถปรับค่าต่าง ๆ ได้เองตามสไตล์หรือความต้องการของแต่ละคน ซึ่งค่า Preset เป็นเพียงแค่ค่าเบื้องต้นให้พร้อมใช้งาน Auto Trade พื้นฐานได้ทันทีเท่านั้น

*** ในทุกครั้งที่มีการตั้งค่าต่าง ๆ ในหน้า Settings ควรกดปุ่ม “OK” เพื่อยืนยันให้เรียบร้อยด้วยเสมอ

คำเตือน!!

Preset นี้เป็นตัวอย่างแสดงการทำงานร่วมกันของ Function ต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์การเทรดของตัวเอง

** ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ในอนาคตได้ **

DOWNLOAD PRESET MACDaHL 5 min

คำเตือน!!

Preset นี้เป็นตัวอย่างแสดงการทำงานร่วมกันของ Function ต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์การเทรดของตัวเอง

** ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ในอนาคตได้ **

DOWNLOAD PRESET Pairing MovingX1.5 [ LF2 ] 5 min

DOWNLOAD PRESET
Pairing MovingX1.5 [ LF2 ] 5 min

คำเตือน!!

Preset นี้เป็นตัวอย่างแสดงการทำงานร่วมกันของ Function ต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์การเทรดของตัวเอง

** ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ในอนาคตได้ **

DOWNLOAD PRESET MovingX2.0 [ LF 11 ] 5 min

คำเตือน!!

Preset นี้เป็นตัวอย่างแสดงการทำงานร่วมกันของ Function ต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์การเทรดของตัวเอง

** ไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ในอนาคตได้ **

DOWNLOAD PRESET MovingX2.1 [ LF 10 ] 5 min

ลงทะเบียนสัมมนา