ทำความรู้จัก Pending Stop Order ตัวช่วยออกออเดอร์อัตโนมัติให้ปลอดภัยมากขึ้น

ทำความรู้จัก Pending Stop Order ตัวช่วยออกออเดอร์อัตโนมัติให้ปลอดภัยมากขึ้น
สารบัญ

ในการเทรดด้วย EA โดยเฉพาะสายที่ใช้กลยุทธ์การแก้ไม้หรือถัวไม้ หนึ่งในปัญหาที่พบเจอได้บ่อยเลยคือ ระบบเปิดออเดอร์ใหม่เร็วเกินไป หรือเปิดซ้อนในจังหวะที่กราฟราคายังไม่พร้อมจะกลับตัวจริง ๆ ส่งผลให้พอร์ตแบกรับความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับเทรดเดอร์สาย Muti-Lot การเปิดไม้แบบเร็วเกินไปนี้ อาจดูเพิ่มโอกาสได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจเป็นเพียงการสะสมความเสี่ยงเพิ่มโดยไม่รู้ตัวก็ได้

นั่นทำให้เทรดเดอร์หลาย ๆ คนเริ่มมองหาวิธีที่ช่วยให้ระบบ “รอจังหวะที่ใช่” ก่อนจะเปิดออเดอร์ใหม่หรือแก้ไม้เพิ่ม และนี่คือจุดที่ฟีเจอร์อย่าง “Pending Stop Order” ที่มีใน EA Thailand จะเข้ามาช่วยได้เป็นอย่างดี เพราะมันไม่ได้เปิดไม้ทันทีที่ราคาถึงระยะ แต่จะตั้งคำสั่งล่วงหน้าไว้ให้ออเดอร์ทำงานเฉพาะตอนที่ราคาจะมีแนวโน้มกลับตัวจริง ซึ่งในบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักวิธีการทำงานของ Pending Stop Order กันว่าทำไมถึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การเทรดแบบแก้ไม้ / ถัวไม้ ปลอดภัยได้มากขึ้น

Pending Stop Order คืออะไร?

Pending Stop Order คือระบบการตั้งคำสั่งซื้อ-ขายล่วงหน้า ที่มีการทำงานแตกต่างจาก Pending Order ทั่วไปเล็กน้อย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Pending Order คือการตั้งราคาไว้ล่วงหน้า เช่น ตั้ง Buy Stop ที่ 2050 แล้วเมื่อราคาวิ่งไปแตะ 2050 ระบบก็จะเปิดออเดอร์ให้อัตโนมัติ

แต่ในกรณีของ Pending Stop Order ที่ใช้ในระบบ EA โดยเฉพาะกับกลยุทธ์แก้ไม้หรือถัวไม้ ระบบจะไม่ยึดราคาคงที่แบบเดิม แต่จะอ้างอิงจาก “ระยะห่างเป็นจุด (Pip)” แทน ระบบจะคำนวณจากจุดที่ต้องแก้ไม้ เช่น ถ้ากราฟวิ่งถึงระยะถัวที่ตั้งไว้ ระบบจะวางคำสั่ง Pending Stop Order ไว้ที่จุดที่ห่างจากราคาปัจจุบันตามที่กำหนด เช่น 150 หรือ 200 pip และจะเลื่อนคำสั่งนั้นตามราคาตลาดแบบอัตโนมัติจากนั้นเมื่อกราฟ “หันกลับ” แล้วแตะจุด Pending นั้น ระบบจึงจะเปิดออเดอร์ใหม่ให้ ถือเป็นการเพิ่มไม้ในจังหวะที่คาดว่าจะมีแรงกลับตัว ทำให้ปลอดภัยและแม่นยำมากกว่าการเปิดไม้แบบทันที

หลักการทำงานของ Pending Stop Order ใน EA Thailand

ในด้านหลักการทำงานของ Pending Stop Order ที่ใช้ควบคู่กับการแก้ไม้ จะแบ่งออกให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ได้ตามเทคนิคการแก้ไม้ 2 แบบเลยคือ Martingale และ Anti-Martingale

Martingale กับ Pending Stop Order

ในระบบเทรดแบบ Martingale ที่ใช้กับ EA Thailand การเปิดออเดอร์แก้ไม้ถัดไปจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ “กราฟราคาวิ่งสวนทาง” โดยออเดอร์จะไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่ราคาวิ่งถึงระยะถัวไม้ แต่จะใช้คำสั่งแบบ Pending Stop Order เข้ามาช่วยให้เปิดออเดอร์ในจังหวะที่ปลอดภัยมากขึ้น ตัวอย่างเช่น

  • สมมุติว่ามีการเปิดออเดอร์ Buy ที่ราคา 2000.00 ตั้งระยะถัวไม้ไว้ที่ 500 pip และระยะ Pending Stop Order ไว้ที่ 200 pip
  • เมื่อราคาลงมาถึง 1995.00 (ครบระยะถัวไม้ 500 pip พอดี) ระบบจะยังไม่เปิดไม้ถัดไปทันที แต่จะ “วางคำสั่ง Pending Order” หรือ “Buy stop” ไว้ที่ราคา 1997.00 แทน (คือราคาปัจจุบัน + 200 pip ตามระยะ Pending ที่กำหนด)
Martingale กับ Pending Stop Order
  • หากกราฟยังคงวิ่งลงต่อ เช่น ลงไปที่ 1994.00 > คำสั่ง Pending Order ก็จะ “เลื่อนลง” ตามไปเป็น 1996.00 และจะเลื่อนลงต่อไปเรื่อย ๆ โดยรักษาระยะห่างไว้ที่ 200 pip เสมอ
  • จนกระทั่งเมื่อกราฟหันกลับขึ้นมา แล้ว “แตะ” จุด Pending Order ที่ตั้งไว้ ณ ตอนนั้น > ระบบจะทำการเปิดออเดอร์ Buy ใหม่ให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นการแก้ไม้ตามแผน Martingale แต่มีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะรอให้กราฟแสดงแรงกลับตัวก่อนค่อยเปิดไม้ใหม่

Anti-Martingale กับ Pending Stop Order

ในระบบกลยุทธ์ Anti-Martingale การเปิดไม้จะทำในจังหวะที่ราคาวิ่ง “ไปถูกทาง” โดยใช้ Pending Stop Order เป็นตัวช่วยวางคำสั่งล่วงหน้า เพื่อรอให้เกิดจังหวะที่ราคาหย่อนไปแล้วเด้งกลับอีกครั้งก่อนจะเปิดไม้ถัดไป ตัวอย่างเช่น

  • สมมุติว่าเปิดออเดอร์ Buy ที่ราคา 2000.00 ตั้งระยะถัวไม้ไว้ที่ 300 pip และกำหนดระยะ Pending Stop Order ไว้ที่ 150 pip
  • เมื่อราคาวิ่งขึ้นมาถึง 2003.00 (ครบระยะถัวไม้ 300 pip) ระบบจะยังไม่เปิดไม้เพิ่มทันที แต่จะ “วางคำสั่ง Pending Order” หรือ “Buy Limit” ไว้ที่ 2001.05 แทน (คือราคาปัจจุบัน – 150 pip ตามระยะ Pending ที่กำหนด)
Anti-Martingale กับ Pending Stop Order
  • หากราคายังวิ่งขึ้นต่อ เช่น ไปถึงราคา 2004.00 > คำสั่ง Pending Order ก็จะ “เลื่อนขึ้นตาม” ไปเป็น 2002.50 โดยระบบจะเลื่อน Pending ไปเรื่อย ๆ ตามกราฟที่วิ่งไปทางบวก พร้อมรักษาระยะห่างไว้ที่ 150 pip ตามที่ตั้งไว้
  • และเมื่อใดก็ตามที่ราคาย่อลงมาชนกับจุด Pending Order ที่ตั้งไว้ > ระบบจะเปิดออเดอร์ Buy เพิ่มให้อัตโนมัติ ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าราคาจะเด้งกลับขึ้นไปอีก ทำให้ได้ตำแหน่งเข้าซื้อเพิ่มในทิศทางของเทรนด์เดิมอย่างมีประสิทธิภาพ

หรือถ้าให้สรุปการทำงานของ Pendgin Stop Order แบบง่าย ๆ เลยก็คือระบบที่ช่วยวางคำสั่งซื้อ-ขายออเดอร์ไว้ล่วงหน้า โดยจะเปิดไม้ใหม่ต่อเมื่อกราฟราคา “วิ่งถึงระยะที่กำหนด” และ “ย้อนกลับมาแตะยังจุด Pending ที่วางไว้” ทำให้การเปิดออเดอร์ในการแก้ไม้ / ถัวไม้ในจังหวะที่ปลอดภัยมากกว่าการเปิดแบบทันที

ถ้าระยะ Pending Stop Order มากกว่าระยะถัวไม้ จะเกิดอะไรขึ้น?

แน่นอนว่าในการทำงานของ Pending Stop Order ระบบจะไม่เปิดออเดอร์ใหม่ทันทีที่ราคาวิ่งถึงระยะถัวไม้ แต่จะเริ่มวางคำสั่ง Pending ไว้ล่วงหน้าแทน และจะเปิดออเดอร์ใหม่ต่อเมื่อกราฟราคาวิ่งกลับมาแตะจุด Pending ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว “ระยะถัวไม้” ที่ใช้ตั้งเป็นเงื่อนไขในการแก้ไม้ มักจะกว้างกว่าระยะ Pending ที่กำหนดไว้ เช่น ระยะถัวไม้ทุก 500 pip แต่ Pending ห่างจากราคาปัจจุบัน 150-200 pip เพื่อให้มีระยะรอจังหวะกลับตัวก่อนเปิดไม้ใหม่

แต่ในทางกลับกัน – กรณีที่ตั้งระยะ Pending ไว้มากกว่าระยะถัวไม้ จะเกิดอะไรขึ้นละ? ระบบจะทำงานต่างจากเดิมอย่างไร? แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร มาลองดูรายละเอียดพร้อมตัวอย่างในหัวข้อนี้กันเลย

ตัวอย่างที่ 1 Martingale

สมมุติว่ามีการเปิดออเดอร์ Sell ที่ราคา 2000.00 ตั้งระยะถัวไม้ไว้ที่ 300 pip และระยะ Pending Stop Order ไว้ที่ 500 pip

Martingale
  • เมื่อราคาสวนทางขึ้นมาที่ 2003.00 (ครบระยะถัวไม้ 300 pip พอดี) ระบบจะยังไม่เปิดไม้ถัดไปทันที แต่จะ “วางคำสั่ง Pending Order” หรือ “Sell stop” ไว้ที่ราคา 1998.00 แทน (คือราคาปัจจุบัน – 500 pip ตามระยะ Pending ที่กำหนด)
  • หากกราฟยังคงวิ่งขึ้นต่อไป เช่น ขึ้นไปที่ 2008.00 > คำสั่ง Pending Order ก็จะ “เลื่อนลง” ตามไปเป็น 2003.00 แทน และจะเลื่อนลงต่อไปเรื่อย ๆ โดยรักษาระยะห่างไว้ที่ 500 pip เสมอ

ตรงนี้และคือจุดที่เริ่มเกิด “ความไม่สมดุล” ในการเทรดขึ้น เพราะเมื่อราคาหันกลับมาแตะจุด Pending (เช่นที่ 2008.00) ระบบจะเปิดออเดอร์ Sell เพิ่มเพื่อแก้ไม้ แต่เนื่องจากออเดอร์ใหม่นั้นอยู่ห่างจากไม้แรกมากพอสมควร (เช่น ออเดอร์ Sell แรกที่ 2000.00 vs Sell สองที่ 2008.00)

***ผลที่ตามมาคือ แม้จะได้ออเดอร์ใหม่ แต่ก็ยังอยู่ในสภาวะขาดทุนโดยรวม และต้องรอให้ราคาวิ่งลงแรงพอสมควร ถึงจะสามารถทำการปิดไม้รวมกันแบบไม่ขาดทุนได้ ซึ่งในกรณีนี้การที่ระยะ Pending มากเกินไปเมื่อเทียบกับระยะถัวไม้ อาจทำให้การแก้ไม้ช้าเกินจังหวะไป และออเดอร์ใหม่ไม่ได้ช่วยเฉลี่ยจุดได้ดีเท่าที่ควร บางครั้งอาจต้องรอให้ราคาวิ่งกลับลงไปไกลกว่าปกติ ถึงจะหักลบและปิดออเดอร์แบบทำกำไรได้

ตัวอย่างที่ 2 Anti-Martingale

สมมุติว่ามีการเปิดออเดอร์ Sell ที่ราคา 2000.00 ตั้งระยะถัวไม้ไว้ที่ 200 pip และระยะ Pending Stop Order ไว้ที่ 500 pip

ตัวอย่างที่ 2 Anti-Martingale
  • เมื่อราคาวิ่งลงมาถึง 1998.00 (ครบระยะถัวไม้ 200 pip) ระบบจะยังไม่เปิดไม้เพิ่มทันที แต่จะ “วางคำสั่ง Pending Order” หรือ “Sell Limit” ไว้ที่ 2003.00 แทน (คือราคาปัจจุบัน + 500 pip ตามระยะ Pending ที่กำหนด)
  • หากราคายังวิ่งลงต่อ เช่น ไปถึงราคา 1996.00 > คำสั่ง Pending Order ก็จะ “เลื่อนขึ้นตาม” ไปเป็น 2001.00 โดยระบบจะเลื่อน Pending ไปเรื่อย ๆ ตามกราฟที่วิ่งไปทางบวก พร้อมรักษาระยะห่างไว้ที่ 150 pip ตามที่ตั้งไว้

แม้หลักการของ Anti-Martingale จะเป็นการเพิ่มออเดอร์เมื่อกราฟวิ่งถูกทาง เพื่อเร่งทำกำไรในการเทรดนั้น ๆ แต่จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่า ไม่มีออเดอร์ใดถูกเปิดเพิ่มแม้จะวิ่งถูกทาง เพราะคำสั่ง Pending กลับถูกวางไว้ “สูงกว่าราคาเริ่มต้น” ไปเรื่อย ๆ เช่น ที่ 2001.00, 1999.00 ซึ่งอาจะเป็นจุดที่ราคาอาจกลับไปแตะได้ในช่วงสั้น ๆ

ถ้าสมมุติว่าราคาเด้งกลับขึ้นไปแตะ Pending ที่ 1999.00 จริง > ระบบก็จะเปิดออเดอร์ Sell เพิ่ม แต่ในจังหวะนั้นแทนที่จะได้กำไรเพิ่มกลับกลายเป็นว่า “กราฟราคากำลังกลับตัวสวนทางขึ้นแทนก็ได้” ซึ่งทำให้ทั้งไม้และไม้ใหม่อาจเข้าสู่สถานะขาดทุนแทนได้

และที่สำคัญที่สุดเลยคือ หากในช่วงที่ราคาวิ่งลงไปแตะ 1994.00 หรือ 1992.00 แล้วมีการเปิดไม้ Sell เพิ่มใกล้ ๆ ในจุดนั้น ก็อาจสร้างโอกาสทำกำไรได้ดีกว่านี้แล้ว ซึ่งการที่ Pending Order ถูกวางไว้ห่างจนไม่สัมพันธ์กับทิศทางราคา ทำให้ผู้เทรดอาจพลาดโอกาสทำกำไรเหล่านั้นไปโดยไม่จำเป็น

โดยจากทั้ง 2 ตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไม้ Pending Stop Order แบบ Martingale หรือ Anti-Martingale การตั้งระยะ Pending ที่มากเกินไปเมื่อเทียบกับระยะถัวไม้ อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่ากับการเทรดในแต่ละกลยุทธ์สักเท่าไรนัก เพราะฉะนั้นการตั้งค่าระยะ Pending ควรเลือกให้เหมาะสมและสัมพันธ์กับพฤติกรรมราคา หรือตั้งให้ต่ำกว่าระยะถัวไม้ เพื่อให้ระบบทำงานได้ตรงตามเป้าหมายการเทรด และไม่พลาดโอกาสทำกำไร

Pending Stop Order กับข้อดีในการเทรดอัตโนมัติ

Pending Stop Order กับข้อดีในการเทรดอัตโนมัติ

การเทรดด้วย EA หรือระบบอัตโนมัติ แม้จะช่วยให้ไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าเจอ แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากเลยคือ “จังหวะในการเปิดไม้ /แก้ไม้” โดยเฉพาะในกลยุทธ์การเทรดแบบ Martingale / Anti-Martingale เพราะถ้าเปิดเร็วไปก็อาจเสี่ยงโดนลากยาว แต่ถ้าช้าเกินก็อาจพลาดจุดทำกำไรที่ดีที่สุด ซึ่งในจุดนี้เอง Pending Stop Order จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ผ่านข้อดีในการใช้งานกับการเทรดอัตโนมัติ ต่อไปนี้

  • ช่วยลดความเสี่ยงจากการเปิดไม้ / แก้ไม้ที่เร็วเกินไป
    ระบบเทรดอัตโนมัติทั่วไป มักมีการเปิดไม้ทันทีเมื่อราคาถึงระยะถัวไม้ที่กำหนดไว้ ซึ่งบางครั้งก็อาจเปิดเร็วเกินไปโดยที่กราฟยังสวนทางอยู่ การใช้ Pending จะมาช่วยให้ระบบรอก่อน แล้วค่อยเปิดไม้ก็ต่อเมื่อกราฟ “กลับตัว” มาแตะจุดที่วางไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเปิดไม้ หรือโดนลากซ้ำซ้อนได้เป็นอย่างดี
  • ช่วยรอจังหวะในการเปิดไม้ได้ดีขึ้น
    แทนที่จะเปิดไม้ทันทีแบบสุ่มตามระยะ ระบบจะวางคำสั่ง Pending ให้รอไว้ในจุดที่คาดว่าราคาจะกลับตัว (ตามระยะ Pending) แล้วค่อยเข้าไม้ในจังหวะที่มีแรงกลับตัวจริง ๆ ซึ่งช่วยให้ได้ตำแหน่งในการเข้าออเดอร์ / แก้ไม้ที่มีคุณภาพมากขึ้น
  • ลดโอกาสพลาดจังหวะทำกำไร (สำหรับ Anti-Martingale)
    สำหรับเทรดเดอร์สายเพิ่มไม้ตามเทรนด์ เช่น Anti-Martingale การวาง Pending Order ช่วยให้ไม่พลาดโอกาสตอนที่กราฟราคาย่อแล้วดีดกลับ เพราะระบบจะรอเปิดไม้ในจุดที่คิดว่ามีโอกาสทำกำไรได้จริง (ตามระยะ Pending ที่ตั้งเอาไว้) ไม่ใช่แค่เปิดตามราคาที่วิ่งไปเรื่อย ๆ ตามระยะถัวไม้ที่กำหนดเท่านั้น
  • ช่วยจัดการพอร์ตให้ปลอดภัยมากขึ้นในการเทรด Martingale
    ในส่วนของกลยุทธ์ Martingale ที่เน้นแก้ไม้เมื่อกราฟราคาวิ่งสวนทาง การใช้ Pending Order จะมาช่วยไม่ให้ระบบเปิดไม้เร็วเกินความจำเป็น เพราะมันจะรอจังหวะที่ราคากลับตัวจริง ๆ ก่อนแล้วจึงค่อยเปิดไม้ใหม่ให้ ทำให้ไม่สะสมความเสี่ยงเร็วเกินไป ซึ่งช่วยลดโอกาสพอร์ตแตกในตลาดผันผวนได้ดีขึ้น

สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า Pendgin Stop Order ไม่ได้ช่วยแค่รออย่างเดียว แต่ยังช่วยคัดกรองจังหวะให้แม่นยำกว่าเดิม เหมือนการเปิดไม้แบบมีเงื่อนไขที่มากขึ้น ไม่ใช่แค่เพราะราคาถึงระยะที่กำหนด แต่ต้องถึงเวลาและมีสัญญาณที่ใช่ด้วย

ข้อควรระวังในการใช้งานของ Pending Stop Order

ข้อควรระวังในการใช้งานของ Pending Stop Order

ถึงแม้ว่า Pending Stop Order จะเป็นฟีเจอร์การแก้ไม้ที่ช่วยให้การเทรดอัตโนมัติปลอดภัยและมีแบบแผนมากขึ้น แต่ก็ต้องใช้ความเข้าใจ ความรอบคอบในการใช้งานด้วย เพราะถ้าตั้งค่าผิดหรือใช้ไม่เหมาะกับสภาพตลาด ก็อาจทำให้เปิดออเดอร์ผิดจังหวะ จนเกิดผลเสียต่าง ๆ ต่อการเทรดได้ ดังนั้นมาลองดูข้อควรระวังหลัก ๆ ที่ควรรู้ก่อนใช้งานกัน

  • ตั้งระยะ Pending ไกลเกินไป อาจพลาดจังหวะดี ๆ ไปโดยไม่รู้ตัว
    ถ้ากำหนดระยะ Pending ไว้ห่างจากราคาปัจจุบันมากเกินไป ระบบจะวางคำสั่งรอไว้ไกลมากกว่ากราฟราคาจะหันกลับมาแตะจุดนี้ได้ ซึ่งบางครั้งอาจเลยจุดที่ควรเข้าไม้จริง ๆ ไปแล้ว ทำให้เสียโอกาสทำกำไรที่ควรได้ไปเลย
  • ตั้งระยะ Pending ใกล้เกินไป ก็เปิดไม้เร็วเกินไปได้
    ในทางกลับกัน ถ้าตั้งระยะ Pending แคบหรือใกล้เกินไป ระบบก็จะวางคำสั่งไว้ใกล้ราคาปัจจุบันมากเกินไป ซึ่งพอราคาย่อหรือกระดิกนิดเดียวก็เปิดออเดอร์แล้ว แบบนี้แทบจะไม่ต่างจากการเปิดไม้ทันที ทำให้เสียจุดเด่นของ Pending Stop Order ไปที่ควรช่วย “กรองจังหวะ” ในการเข้าไม้ให้แม่นขึ้นไปได้
  • ระยะ Pending ที่มากกว่าระยะถัวไม้ ส่งผลให้จุดเฉลี่ยต้นทุนไม่เวิร์ค
    ในระบบแก้ไม้ เช่น Martingale หรือ Anti-Martingale ถ้าตั้งระยะ Pending ไว้มากกว่าระยะถัวไม้ เช่น ระยะถัวไม้ 300 pip แต่ระยะ Pending 500 pip แบบนี้จะทำให้ไม้ถัดไปถูกเปิดห่างจากไม้ก่อนหน้ามากเกินไป ซึ่งส่งผลให้จุดเฉลี่ยต้นทุนไม่สัมพันธ์กัน และต้องรอให้ราคาวิ่งยาวกว่าปกติ ถึงจะปิดไม้รวมได้แบบไม่ขาดทุน
  • ไม่เหมาะกับตลาดที่ผันผวนสูง หรือไม่มีเทรนด์ชัดเจน
    ในตลาดที่มีความผันผวนสูง หรือกราฟแกว่งตัวไปมาแบบไร้ทิศทาง เช่น ช่วง Sideway ของทองคำ, Forex หรือคริปโต การใช้ Pending Stop Order อาจไม่ตอบโจทย์ได้ เพราะราคามักวิ่งไปแตะจุด Pending แล้วกลับตัวไม่ชัด ทำให้เปิดไม้ในจังหวะที่ไม่มีคุณภาพ และอาจโดนลากซ้ำอีกครั้งได้ง่าย

ถ้าจะมองว่า Pending Stop Order เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากก็คงได้ แต่สิ่งนี้เองถ้าใช้โดยไม่เข้าใจหลักการทำงานให้ดีพอ ก็อาจทำให้ระบบการเทรดอัตโนมัติทำงานผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นก่อนใช้งาน ผู้เทรดควรต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบ Pending Order ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อน และทดสอบกลยุทธ์ให้รอบคอบก่อนนำไปใช้เทรดจริง

บทสรุป

ถ้าสรุปง่าย ๆ Pending Stop Order เป็นเครื่องมือที่ดีที่ช่วยให้ระบบเทรดอัตโนมัติ ที่มีการแก้ไม้ มีการเปิดออเดอร์ในจังหวะที่ปลอดภัยมากขึ้น โดยไม่ได้เปิดทันทีเมื่อถึงระยะถัวไม้เหมือนระบบทั่วไป แต่จะรอให้ราคาหันกลับมาแตะจุดที่วางไว้ก่อนแล้วค่อยเปิด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเปิดไม้แบบทันทีได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในมุมหนึ่ง ระบบนี้อาจจะไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แล้วก็ไม่ได้แม่นยำ 100% แต่สำหรับเทรดเดอร์ที่อยากเทรดอัตโนมัติอย่างมีสติ Pending Stop Order คือเครื่องมือที่ “ตอบโจทย์” ได้เป็นอย่างดี เพราะมันจะกลายเป็นตัวช่วยให้การเทรดดูมีแบบแผนมากขึ้น และลดความเครียดจากการเข้าไม้ผิดจังหวะได้เยอะเลยทีเดียว

ลงทะเบียนสัมมนา