Day trade คืออะไร ? คุณเหมาะหรือไม่ที่จะทำกำไรทุกวัน

Day trade คืออะไร และทำกำไรทุกวันได้ไหม?
สารบัญ

การเทรดรายวันหรือที่เรียกกันว่า “Day trade” นั้น ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อ – ขายสินทรัพย์ในตลาดการเงินเพื่อหากำไรแบบเร็วทันใจเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความเสี่ยง และการตัดสินใจที่เฉียบขาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับบางคนการเทรดแบบรายวันอาจเป็นการสร้างรายได้ที่น่าตื่นเต้นและท้าทายเหมือนเกมที่มีเดิมพันสูง ในขณะที่สำหรับอีกหลายคน มันคือบททดสอบที่ต้องแลกมาด้วยความเครียด และเวลาแทบทั้งหมดที่มี

ซึ่งการเทรดรายวันสอนอะไรหลายอย่างให้กับเทรดเดอร์เป็นอย่างมาก ตั้งแต่การเข้าใจอารมณ์ของตัวเองไปจนถึงการวางแผนรับมือกับความไม่แน่นอนของตลาด สิ่งที่ทำให้กลยุทธ์ Day trade ต่างจากกลยุทธ์การเทรดแบบอื่น ๆ คือการเผชิญหน้ากับความผันผวนและการตัดสินใจที่ต้องทำในเสี้ยววินาที ดังนั้นหากคุณกำลังสงสัยว่า Day trade เหมาะกับคุณหรือไม่ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโลกของการเทรดรายวันกัน พร้อมช่วยให้คุณตัดสินใจว่าการทำกำไรทุกวันเป็นสิ่งที่คุณต้องการจริงหรือไม่

 Day trade คืออะไร?

Day trade หรือการเทรดรายวัน เป็นกลยุทธ์รูปแบบหนึ่งในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน (เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์, ทองคำ ฯลฯ) โดยที่เทรดเดอร์ต้องทำการซื้อ – ขายสินทรัพย์ภายในวันเดียวกัน และจะไม่มีการถือครองสินทรัพย์ข้ามคืน วิธีนี้เหมาะสำหรับการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในระยะสั้น ซึ่งเทรดเดอร์ต้องการใช้ประโยชน์จากความผันผวนของราคาที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และจับจังหวะเพื่อทำการซื้อขายให้ถูกจังหวะ และได้กำไรจากราคาที่มีการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ

หลักการและแนวทางของ Day trade

แนวทางหลักของ Day trade คือการจับจังหวะราคาที่ผันผวนภายในวัน โดยคาดหวังว่าจะสามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของราคาได้ โดยส่วนมากเทรดเดอร์แบบ Day trade จะใช้วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เช่น การอ่านกราฟแท่งเทียน การดูแนวโน้ม การใช้ตัวชี้วัด (Indicators) ต่าง ๆ เพื่อหาจุดเข้าและจุดออกในการซื้อขาย ซึ่งเทรดเดอร์เหล่านี้มักไม่ค่อยสนใจปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Factors) ของสินทรัพย์ เช่น งบการเงิน หรืออัตราการเติบโตระยะยาวของบริษัท แต่จะเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของราคาและข้อมูลสถิติในปัจจุบันเป็นหลัก

คุณสมบัติที่สำคัญของเทรดเดอร์สาย Day trade

การจะเป็นเทรดเดอร์สายรายวันได้ไม่ใช่เพียงแค่ต้องรู้วิธีการเทรดอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณสมบัติและทักษะหลายอย่างที่เข้ามาควบคุมด้วย เพื่อให้การตัดสินใจในการเทรดแต่ละครั้งมีโอกาสเป็นไปในทางที่ดี ดังนั้นมาลองดูคุณสมบัติที่สำคัญของเหล่า Day trader กันเลย

  • ทักษะการวิเคราะห์กราฟ

สิ่งแรกเลยคือ ทักษะการอ่านกราฟที่เป็นเสมือนการอ่านใจตลาด เทรดเดอร์สายนี้ต้องใช้กราฟและตัวชี้วัด (Indicator) ต่าง ๆ เข้ามาช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา ไม่ว่าจะเป็น เส้นแนวโน้ม (Trend Lines) หรือ Indicator พื้นฐานอย่าง Moving Averages (MA) เพื่อดูแนวโน้มว่ากราฟราคาจะไปทิศทางใด รวมไปถึงการใช้ MACD ที่ช่วยให้เราเห็นทิศทางและจังหวะที่น่าเข้าเทรดได้ชัดขึ้น ทักษะการอ่านกราฟพวกนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เราเข้าซื้อ – ขายได้เร็วและแม่นยำในช่วงจังหวะสั้น ๆ ของแต่ละวัน

  • การจัดการอารมณ์และความรู้สึก

อีกหนึ่งทักษะที่สำคัญและจำเป็นกับเทรดเดอร์อย่างยิ่งเลยคือ “การจัดการอารมณ์และความรู้สึก” เพราะการเทรดรายวันมีความกดดันแบบสุด ๆ เนื่องจากราคาที่เปลี่ยนไวมาก เทรดเดอร์จำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ว่าจะตอนราคาพุ่งขึ้นจนน่าตื่นเต้น หรือราคาลดลงจนรู้สึกจนใจหาย สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผ่านไปได้เลยคือ “มีวินัย ทำตามแผน ไม่ปล่อยให้อารมณ์มากำหนดและตัดสินใจ” เพราะถ้าหลงไปตามอารมณ์ มันอาจส่งผลให้ขาดทุนหนักกว่าเดิมได้ การเทรดตามแผนอย่างมีวินัยจะช่วยให้เราอยู่ในเกมเทรดได้แบบยาว ๆ 

  • การวางแผน และความรวดเร็วในการตัดสินใจ

อีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ใน Day trade เลยคือ การวางแผน เพราะการเทรดรายวันต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและตรงจุด การมีแผนไว้ล่วงหน้า เช่น ตั้งเป้ากำไร (Take Profit) ว่าจะเอาเท่าไร หรือกำหนดจุดที่จะหยุดขาดทุน (Stop Loss) จะช่วยให้เรามีกรอบการตัดสินใจที่ชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยง และไม่โดนตลาดเล่นงานหนักจนเกินไป

กลยุทธ์ที่นิยมใช้ใน Day trade

กลยุทธ์ที่นิยมใช้ใน Day trade

เมื่อเข้าใจและรู้ถึงคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นเทรดเดอร์สาย Day trade แล้ว ทีนี้มาลองดูกลยุทธ์ที่มักใช้ในการเทรดรายวันกันต่อเลย ซึ่งมีหลายวิธีที่เหล่าเทรดเดอร์สามารถใช้เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้ โดยแต่ละกลยุทธ์ก็จะมีลักษณะเฉพาะและจังหวะเข้าเทรดที่แตกต่างกันไป ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของแต่ละคน 

  • Scalping

Scalping เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเทรดเข้า – ออกที่รวดเร็ว และคอยเก็บเกี่ยวกำไรทีละนิด จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นสุด ๆ อาศัยการจับแนวโน้มและแนวรับ – แนวต้าน ตามเส้นค่าเฉลี่ยเส้น Moving Average (MA) ไม่ว่าจะเป็น SMA, EMA ฯลฯ โดยเข้าซื้อและขายภายในไม่กี่วินาที เป้าหมายหลักของกลยุทธ์นี้คือการเก็บกำไรเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นปริมาณการเทรดต่อวันจึงเยอะมาก

  • Momentum trading

Momentum trading คือการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่มีแนวโน้มชัดเจนหรือมี “โมเมนตัม” ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เช่น การที่ราคาพุ่งขึ้นหรือร่วงลงแรง ๆ กลยุทธ์นี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีข่าวสำคัญ ๆ เช่น ประเด็นข่าวที่ส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์และ ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ว่ามีความหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน

การใช้ Momentum trading ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะโมเมนตัมจากข่าวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจทำให้ราคาพุ่งขึ้นหรือลงในช่วงสั้น ๆ แล้วค่อย ๆ ชะลอตัว ซึ่งถ้าเข้าจังหวะได้ทันก็สามารถทำกำไรได้ แต่ถ้าช้าไปก็อาจจะโดนราคาแกว่งกลับมาจนเสียได้เช่นกัน

  • Breakout trading

Breakout trading เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเข้าเทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ ๆ ออกไป เช่น ถ้าราคาทะลุระดับแนวต้านที่เคยขึ้นไปถึงแล้วหยุดหลายครั้ง มักจะมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวขึ้นต่อไปในทิศทางที่แรงขึ้น หรือหากราคาทะลุแนวรับก็อาจมีโอกาสร่วงต่อ โดยเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้มักจะตั้งใจเฝ้าระดับของราคาและรอจับจังหวะทำกำไรในตอนที่กราฟราคาจะ “ทะลุ” ออกไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน

ข้อดี และ ข้อจำกัดของ Day trade

ข้อดี และ ข้อจำกัดของ Day trade

Day trade เป็นรูปแบบการเทรดแบบหนึ่งที่ตอบโจทย์คนที่ชอบความท้าทายและรีบเก็บทำกำไรในระยะสั้น ทีนี้มาลองดูกันเลยว่าการเทรดรูปแบบนี้มีข้อดีอะไรที่น่าสนใจบ้าง สำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจ

  1. โอกาสทำกำไรจากเทรดได้บ่อยครั้ง

การเทรดรูปแบบรายวัน ช่วยเปิดโอกาสให้เทรดเดอร์เข้าถึงการทำกำไรได้หลายครั้งภายในวันเดียว เพราะการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ในตลาดนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วงที่มีปริมาณการซื้อ – ขายสูง เช่น ช่วงตลาดเปิด หรือช่วงข่าวที่ส่งผลต่อราคาของสินทรัพย์ในตลาดการเงิน

  1. ลดความเสี่ยงจากการถือข้ามคืน

เนื่องจากทุกตำแหน่งที่ทำการเทรด จะต้องเปิด – ปิดในวันเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องพบกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาข้ามคืน โดยความเสี่ยงที่มาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดปิด เช่น ข่าวเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงเมื่อเปิดตลาดในวันถัดไป การปิดออเดอร์เทรดทั้งหมดก่อนเวลาตลาดปิดทำให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ได้เป็นอย่างดี

  1. เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความคล่องตัว

การเทรดแบบรายวันเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการข้อผูกมัดกับสินทรัพย์ในระยะยาว และชอบที่จะจัดการพอร์ตการลงทุนของตัวเองได้อย่างเต็มที่ เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเทรดได้ตามความต้องการ และเมื่อทำกำไรในแต่ละวันได้ตามกำหนด ก็สามารถหยุดพักผ่อนหรือใช้เวลาส่วนตัวได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องตลาดการเงิน

ข้อจำกัดของ Day trade

แม้ว่า Day trade จะเต็มไปด้วยข้อดีที่น่าสนใจ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยข้อเสียและข้อจำกัดที่เทรดเดอร์ต้องเผชิญ หากไม่มีการวางแผนหรือการบริหารความเสี่ยงที่ดีพอ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพอร์ตการลงทุนได้ มาลองดูรายละเอียดของข้อเสียเหล่านี้กัน

  1. ความผันผวนของกราฟราคาที่คาดเดาไม่ได้

อย่างที่เรารู้กันดีว่าตลาดการเงินเต็มไปด้วยความผันผวนที่เกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ข่าวเศรษฐกิจ เหตุการณ์สำคัญ หรืออารมณ์ของผู้ลงทุนในตลาด ความผันผวนเหล่านี้อาจทำให้กราฟราคามีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้ เทรดเดอร์ที่ไม่มีการวางแผนรับมือหรือไม่มีการตั้ง Stop Loss อาจต้องเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนักได้

  1. ความเสี่ยงและความกดดันสูง

ในการเทรดรายวันที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจ และต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจสร้างความเครียดและความกดดันให้กับตัวเทรดเดอร์เป็นอย่างมาก ถ้าผู้เทรดไม่สามารถควบคุมอารมณ์หรือรับมือกับความเสี่ยงได้มากพอ อาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาดจนนำไปสู่โอกาสที่ทำให้ขาดทุนแบบย่อยยับได้เลยทีเดียว

  1. ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการเทรดสูง

ด้วยการเทรดหลายครั้งเพื่อทำกำไรระยะสั้นในวันเดียว ทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นในทุกออเดอร์ได้เช่นกัน หากเทรดบ่อยเกินไป ต้นทุนเหล่านี้อาจกินกำไรที่ทำได้ จนทำให้ผลตอบแทนสุทธิต่ำลงได้อย่างมาก และในกรณีที่ขาดทุนในวันใดวันหนึ่ง เทรดเดอร์ก็จำเป็นต้องแบกรับต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน

แล้วถ้างั้น Day trade เหมาะกับคุณหรือไม่ ?

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนเริ่มรู้สึกว่าการเทรดในรูปแบบ Day trade  นั้นดูน่าสนใจและน่านำมาใช้จริงไม่มากก็น้อยแน่ ด้วยการทำกำไรได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียว แต่ถ้าถามว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่ คำตอบอาจไม่ได้ตรงไปตรงมา เพราะมันขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า “พร้อม” แค่ไหนสำหรับการเตรียมเดินเข้าบนเส้นทางการเทรดรายวัน ลองมาถามตัวเองผ่านคำถามเหล่านี้ก่อนดีกว่า

  1. คุณรับมือกับความเสี่ยงและความผันผวนได้มากแค่ไหน ?

ในการเทรดรูปแบบรายวัน มักจะไปเลือกเทรดในรูปแบบระยะสั้น ที่ใช้กราฟ และช่วงเวลาสั้น เพื่อให้เห็นความผันผวนและโอกาสทำกำไรได้มาก ซึ่งแน่นอนว่าในตลาดการเงินเต็มไปด้วยความผันผวนมาก หากคุณเป็นคนที่เครียดง่าย หรือรับมือกับการขาดทุนไม่ได้เลย การเทรดแบบรายวันอาจไม่เหมาะเท่าไรนัก แต่ถ้าคุณสามารถควบคุมอารมณ์ ตั้งสติ ยอมรับความเสี่ยง และเรียนรู้จากความผิดพลาดได้ นี่อาจเป็นเส้นทางที่น่าสนใจที่ให้คุณได้ลองก็ได้

  1. คุณมีเวลาและความทุ่นเทพอหรือเปล่า ?

การเทรดรายวันไม่ใช่แค่การเปิดออเดอร์แล้วปิดจอไปเท่านั้น แต่คุณต้องใช้เวลาเฝ้าดูตลาด วิเคราะห์กราฟราคา และปรับตัวให้ทันกับทุกความเปลี่ยนแปลงในตลาดตลอดเวลา ถ้าคุณเป็นคนที่ทุ่มเวลาในแต่ละวันเพื่อศึกษาข้อมูล และพร้อมที่จะพัฒนาสกิลการเทรดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง Day trade อาจจำเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณได้เช่นกัน แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณมีภาระงานอื่น ๆ หรือต้องการเทรดที่ใช้เวลาน้อยกว่า ทางเลือกนี้อาจไม่เหมาะ

  1. คุณจัดการอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ?

ความเครียด ความกดดัน เป็นสิ่งที่ต้องเจอในการเทรดรายวันอย่างแน่นอน เพราะต้องผ่านการตัดสินใจเทรดที่รวดเร็วและเป็นไปตามที่วางแผนไว้ หากคุณปล่อยให้อารมณ์และความรู้สึกอยู่เหนือการตัดสินใจ เช่น การรีบเทรดเพื่อ “เอาคืน” หลังขาดทุน หรือเทรดเพราะความโลภจนละเลยแผนที่วางไว้ คุณอาจเจอกับความเสียหายอย่างหนัก แต่ถ้าคุณมีวินัย และสามารถแยกอารมณ์ออกจากการตัดสินใจได้ คุณอาจประสบความสำเร็จในเส้นทางสายนี้ก็ได้

  1. คุณพร้อมลงทุนความรู้และเครื่องมือในการเทรดไหม ?

Day trade จำเป็นต้องมีทั้งความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเครื่องมือที่เหมาะสมในการเทรด เช่น แพลตฟอร์มการเทรดที่ทั้งเร็วและเสถียรอย่าง MT4 / MT5, ความรู้เรื่องกราฟราคาและสินทรัพย์ในตลาดการเงิน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเทรด ถ้าคุณพร้อมที่จะลงทุนให้เวลากับสิ่งเหล่านี้ และมองว่ามันคือ “ต้นทุนเพื่อการพัฒนา” คุณอาจเหมาะกับการเทรดรูปแบบรายวันก็ได้

บทสรุป

หากให้สรุปแบบง่าย ๆ เลย Day trade เป็นรูปแบบการเทรดที่ไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะมันเปรียบเสมือนสนามแข่งที่ทุกคนต้องมีทักษะ มีความพร้อม และยอมรับว่าอาจจะไม่ชนะทุกครั้ง (การชนะที่หมายถึงคือการชนะตัวเอง) ถ้าคุณมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ มีวินัย และยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ การเทรดแบบรายวันอาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างรายได้จากตลาดการเงินในแบบที่ท้าทาย แต่ถ้าคุณมองหาความมั่นคงและไม่ชอบความเสี่ยง การลงทุนระยะยาวอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากกว่า

สุดท้ายแล้ว Day trade จะเหมาะกับคุณหรือไม่ ? อยู่ที่คุณพร้อมแค่ไหนที่จะเดินบนเส้นทางที่มีความเสี่ยงแบบนี้ และมองเห็นว่าความเสี่ยงคือโอกาสที่รอการพิสูจน์ตัวเอง Day trade อาจเป็นเส้นทางที่ใช่สำหรับคุณ

ลงทะเบียนสัมมนา